วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กลุ่มดาวจักรราศี

กลุ่มดาวจักรราศี
กลุ่มดาวจักรราศี (Zodiac) ทั้ง 12 คือ กลุ่มดาวฤกษ์ 12 กลุ่มที่ปรากฏอยู่ตามแนวเส้นสุริยวิถี (Ecliptic) ฮิปปาร์คัส ( Hipparchus )แบ่งแถบเส้นสุริยวิถี (Ecliptic) ซึ่งเป็นแถบกว้าง 16 องศา กว้างวัดจากสุริยะวิถี (Ecliptic) ไปข้างละ 8 องศา รอบท้องฟ้าออกเป็น 12 ส่วน แต่ละส่วนกว้าง 30 องศา ทุกราศีมีดาวฤกษ์ประจำอยู่ 1 กลุ่ม จึงเรียกกลุ่มดาว 12 ราศี เวลาดูในท้องฟ้า จะเห็นกลุ่มดาว 12 ราศีเรียงตามลำดับ จาก ทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก และจะมีชื่อเรียกตามกลุ่มดาวที่อยู่ในแถบแนวเส้นสุริยวิถี (Ecliptic) นี้ว่า " เครื่องหมาย หรือ สัญลักษณ์จักรราศี (Sign of the Zodiac) "





กลุ่มดาวแกะ  Aeries ราศีเมษ
          กลุ่มดาวแกะ เป็นกลุ่มดาวอันดับแรกของกลุ่มดาวจักรราศี อยู่ระหว่างกลุ่มดาวปลาคู่ (Pisces) และกลุ่มดาววัว (Taurus) โดยมีดาวที่สังเกตได้ง่ายในกลุ่ม 3 ดวง คือ ดาวอัลฟา, เบตา และแกมมา อยู่ในตำแหน่งของหัวแกะ ขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า เที่ยงคืนของประมาณวันที่ 22 ตุลาคม 
ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 90 และ -60 องศา. ในเดือนธันวาคม (เวลา 21:00 น)





























กลุ่มดาววัว  Taurus ราศีพฤษภ
          กลุ่มดาววัว เป็นกลุ่มดาวอันดับที่สองของกลุ่มดาวจักรราศี เนื่องจากเป็นกลุ่มดาวที่อยู่ในแนวสุริยวิถี สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เพราะมีดาวสุกสว่างหลายดวง เช่น ดาวตาวัว  และมีกระจุกดาวที่คนไทยรู้จักกันดี คือกระจุกดาวลูกไก่  กลุ่มดาววัว อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ของกลุ่มดาวนายพราน  เราสามารถเห็นดาวตาวัวเป็นสีแดง อยู่ใกล้กับกระจุกดาวลูกไก่ โดยที่หน้าของวัว จะหันไปทางทิศตะวันออก ชูเขาวัวอยู่เหนือกลุ่มดาวนายพราน ปลายเขาของวัวข้างหนึ่งแตะกับกลุ่มดาวสารถี  ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยเป็นดาวที่อยู่ร่วมกัน ระหว่างกลุ่มดาววัว และกลุ่มดาวสารถี เราสามารถเห็นกลุ่มดาวคนคู่ ขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ราวเที่ยงคืนปลายเดือนพฤศจิกายน, ต้นเดือนธันวาคม

ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 90 และ -65 องศา. ในเดือนมกราคม (เวลา 21:00 น)


กลุ่มดาวคนคู่ Gemini ราศีเมถุน
          กลุ่มดาวคนคู่ เป็นกลุ่มดาวอันดับที่สามของกลุ่มดาวจักรราศี เนื่องจากเป็นกลุ่มดาวที่อยู่ในแนวสุริยวิถี อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ของกลุ่มดาวนายพราน  โดยมีดาวฤกษ์สุกสว่างที่สังเกตง่าย และอยู่ใกล้กัน 2 ดวง คือ ดาวคาสเตอร์  และดาวพอลลักซ์  ซึ่งดาวทั้งสองอยู่ในตำแหน่งศีรษะของคนคู่ และเท้าของคนคู่ทั้งสอง อยู่บนทางช้างเผือก ส่วนคนไทยเห็นกลุ่มดาวคนคู่ เรียงกันเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า คล้ายโลงศพ จึงเรียกชื่อกลุ่มดาวนี้ว่า "กลุ่มดาวโลงศพ" และเห็นดาวสามดวงที่อยู่ตรงด้านข้างโลงเหมือน นกกาที่มาเกาะโลงอยู่ แล้วเรียกกลุ่มดาวดังกล่าวว่า "กลุ่มดาวกา" เราสามารถเห็นกลุ่มดาวคนคู่ ขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ราวเที่ยงคืนของเดือนมกราคม       
ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 90 และ -60 องศา.ในเดือนกุมภาพันธ์


















กลุ่มดาวปู  Cance rราศีกรกฎ
          กลุ่มดาวปู เป็นกลุ่มดาวอันดับที่สี่ของกลุ่มดาวจักรราศี เป็นกลุ่มดาวที่มีความสว่างปรากฏน้อยที่สุดในกลุ่มดาวจักรราศี ซึ่งไม่มีดาวดวงใดในกลุ่มดาวเลย ที่มีความสว่างปรากฏ น้อยกว่า 4.0 กลุ่มดาวปู อยู่ระหว่างกลุ่มดาวคนคู่  และกลุ่มดาวสิงโต  โดยกลุ่มดาวปู จะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืน ของปลายเดือนมกราคม และต้นเดือนกุมภาพันธ์      

ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 90 และ -60 องศา. ในเดือนมีนาคม (เวลา 21:00 น)

     - Acubens, 4.3, White เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงินขาว มีความสว่างปรากฏประมาณ 4.3 ชื่อดาว หมายถึง "ก้ามปู" (The Claw)
       - Altarf, 3.52 มีความสว่างปรากฏประมาณ 3.52 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 290 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง "ปลายขาปู"
       - Asellus Borealis, 4.7, Pale Yellow เป็นดาวฤกษ์สีเหลือง มีความสว่างปรากฏประมาณ 4.7 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 230 ปีแสง ชื่อดาวแกมมาและเดวตารวมกัน หมายถึง "ลา" (The Assess)
       - Asellus Austrailis, 4.2, Pale Yellow เป็นดาวฤกษ์สีเหลือง มีความสว่างปรากฏประมาณ 4.2 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 220 ปีแสง ชื่อดาวแกมมาและเดวตารวมกัน หมายถึง "ลา" (The Assess)

กลุ่มดาวสิงโต  Leo ราศีสิงห์
          กลุ่มดาวสิงโต เป็นกลุ่มดาวอันดับที่ห้าของกลุ่มดาวจักรราศี เป็นกลุ่มดาวที่อยู่ในแนวสุริยวิถีที่สังเกต และจดจำได้ง่าย โดยรูปสิงโตของกลุ่มดาวสิงโต จะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ดาวในส่วนหัวของสิงโต จะเรียงกันเป็นรูปเครื่องหมายคำถามกลับด้าน  โดยมีดาวฤกษ์สุกสว่างคือ ดาวเรกูลัส ซึ่งจะอยู่ตรงตำแหน่งหัวใจของสิงโต จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า ดาวหัวใจสิงห์ ซึ่งเป็นดาวหนึ่งในสี่ของดาวราชาทั้งสี่  เราสามารถเห็นกลุ่มดาวสิงโต ขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ราวเที่ยงคืนเดือนมีนาคม       

ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 90 และ -65 องศา. ในเดือนเมษายน(เวลา 21:00 น)



  - Regulus or Cor Leonic, 1.35, Blue-white ดาวหัวใจสิงห์ (ดาวเรกูลัส) เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน-ขาวที่อยู่บนแนวสุริยวิถี มีความสว่างปรากฏประมาณ 1.35 เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างเป็นอันดับ 21 ของท้องฟ้าตอนกลางคืน อยู่ห่างจากโลกประมาณ 77 ปีแสง ชื่อดาว "Regulus" หมายถึง หัวใจสิงห์ เป็นดาวหนึ่งในสี่ของดาวราชาทั้งสี่ (The Four Royal Stars) ซึ่งประกอบด้วย ดาวหัวใจสิงห์ (Regulus, -Leo), ดาวตาวัว (Aldebaran, -Tau), ดาวปาริชาต (Anteres, -Sco) และดาวโฟมาออท (Fomalhaut, -PsA) ซึ่งแต่ละดวงจะแบ่งเส้นรอบวงท้องฟ้าออกเป็น 4 ส่วน โดยอยู่ห่างพอๆกัน ประมาณครึ่งท้องฟ้า (90 องศา) ทำให้เรามองเห็นดาวราชาอย่างน้อย 1 คู่เสมอ นอกจากนี้ ดาวหัวใจสิงห์เป็นดาวคู่ โดยโคจรรอบดาวฤกษ์อีกดวง ซึ่งกันและกัน พอมองเห็นได้ด้วยกล้องสองตา
      - Denebola, 2.14, White ดาวเดเนบโบลา มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.14 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 36 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง "หางสิงโต" (The lion's tail) ซึ่งอยู่ในตำแหน่งหางสิงโตพอดี โดยดาว Denebola เป็นดาวคู่เช่นกัน แต่ไม่สามารถเห็นดาวคู่ได้ด้วยกล้องดูดาวขนาดเล็ก
      - Algieba, 2.2, Orange-yellow ดาวอัลจีบา เป็นดาวคู่ มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.2 และ 3.47 สามารถเห็นดาวคู่ได้ด้วยกล้องดูดาวขนาดเล็ก อยู่ห่างจากโลกประมาณ 126 ปีแสง โคจรรอบซึ่งกันและกัน โดยใช้เวลาประมาณ 620 ปีต่อรอบ ชื่อดาว หมายถึง "หน้าผาก" (The Forehead) แต่จริงๆแล้ว อยู่ในตำแหน่งคอของสิงโต นอกจากนี้ เราสามารถเห็นฝนดาวตกสิงโต (Leonid Meteor Shower) ได้ตรงตำแหน่งประมาณ 2 องศา ไปทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ของดาวดวงนี้ โดยจะเห็นมากสุดทุก 33 ปี โดยครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ.2542 (ค.ศ.1999)
      - Adhafera, 3.44 ดาวแอดฮาเฟอรา เป็นดาวคู่เช่นกัน อยู่ห่างจากโลกประมาณ 260 ปีแสง โดยที่อีกดวง มีความสว่างปรากฏประมาณ 6 พอมองเห็นดาวคู่ได้ด้วยกล้องสองตา













กลุ่มดาวหญิงสาว  Virgo ราศีกันย์
            กลุ่มดาวหญิงสาว หรือกลุ่มดาวหญิงสาวพรหมจารี เป็นกลุ่มดาวอันดับที่หกของกลุ่มดาวจักรราศี มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่สอง รองจากกลุ่มดาวงูไฮดรา  กลุ่มดาวหญิงสาว อยู่ทางซีกฟ้าใต้ มีลำตัวทอดยาวขนานไปตามแนวสุริยวิถี  มีดาวฤกษ์สุกสว่าง คือ ดาวรวงข้าว  เป็นดาวฤกษ์ที่เห็นได้เด่นชัดและหาได้ง่าย โดยลากเส้น จากแนวหางของกลุ่มดาวหมีใหญ่  โค้งไปตามแนวโค้งของหาง ราว 30 องศา จะผ่านดาวดวงแก้ว  และต่อไปอีกประมาณ 30 องศา ก็จะเป็นดาวรวงข้าวนี้   ถ้ามองไปทางซีกฟ้าใต้ กลุ่มดาวหญิงสาว จะอยู่สูงจากกลุ่มดาวม้าครึ่งคน ประมาณ 30-40 องศา โดยกลุ่มดาวหญิงสาว จะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของเดือนเมษายน

ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 80 และ -80 องศา. ในเดือนพฤษภาคม (เวลา 21:00 น)

   - Spica, 1.0, Blue-white ดาวรวงข้าว หรือดาวสไปกา เป็นดาวแปรแสง มีความสว่างปรากฏระหว่าง 0.97-1.04 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 262 ปีแสง ดาวรวงข้าว อยู่ในตำแหน่งก้านของรวงข้าว ที่หญิงสาวถือไว้ด้วยมือซ้าย คำว่า "Spica" มาจากภาษาอารบิก หมายถึง "ไม่สามารถสู้ได้" (Defenceless or unarmed one) เนื่องจาก ไม่มีดาวฤกษ์ที่สว่างใด ใหล้เคียงบริเวณนั้น และถ้ามองไปตามแนวสุริยวิถี จะพบว่า ดาวรวงข้าว จะอยู่ประมาณกึ่งกลางระหว่าง ดาวหัวใจสิงห์ (Regulus, -Leo) และดาวปาริชาต (Anteres, -Sco) โดยห่างไปประมาณ 50 องศา
     - Zavijava, 3.8, Yellow ดาวซานิซจาวา เป็นดาวฤกษ์สีเหลือง มีความสว่างปรากฏประมาณ 3.8 ปัจจุบัน จุด Autumnal Equnix ก็อยู่ใกล้กับดาวดวงนี้มากที่สุด
     - Porrima, 2.76, Yellowish-white ดาวพอร์ริมา เป็นดาวคู่ มีความสว่างปรากฏรวมประมาณ 2.76 สามารถเห็นทั้งคู่ได้ ด้วยกล้องดูดาว หรือกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก ทั้งคู่มีความสว่างปรากฏ ประมาณ 3.5 ทั้งสองดวง โคจรรอบซึ่งกันและกัน ใช้เวลาประมาณ 169 ปีต่อรอบ อยู่ห่างจากโลกประมาณ 39 ปีแสง ชื่อดาว "พอร์ริมา" เป็นชื่อเทพธิดาแห่งการทำนาย ในสมัยโรมัน (the Roman Goddess of Prophecy) ดาวดวงนี้ มีอีกชื่อหนึ่งว่า "Carmenta"
     - Auva, 3.38, Red เป็นดาวฤกษ์ยักษ์สีแดง มีความสว่างปรากฏประมาณ 3.38 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 202 ปีแสง มีอีกชื่อหนึ่งว่า "Minalava"
     - Vindemiatrix, 2.83, Yellow ดาววินดามิอาทริกซ์ มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.83 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 102 ปีแสง อยู่ในตำแหน่งแขนขวาของหญิงสาว ชื่อดาวมาจากภาษาละติน หมายถึง "ผู้เก็บเกี่ยวต้นองุ่น" (The femaie grape-gatherer) ซึ่งในอดีต ดาวดวงนี้เป็นสัญญาณบอกถึง การเข้าสู่ฤดูการทำไวน์นั่นเอง
















กลุ่มดาวคันชั่ง  Libra ราศีตุลย์
              กลุ่มดาวคันชั่ง เป็นกลุ่มดาวอันดับที่เจ็ดของกลุ่มดาวจักรราศี อยู่ระหว่างกลุ่มดาวหญิงสาว และกลุ่มดาวแมงป่อง โดยกลุ่มดาวนี้ อยู่ตรงหน้า ของส่วนหัวแมงป่อง โดยที่ดาวอัลฟา  อยู่บนแนวสุริยะวิถีพอดี จะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของต้นเดือนพฤษภาคม  
      ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 65 และ -90 องศา. ในเดือนมิถุนายน (เวลา 21:00 น)

     - Zuben Elgenubi, 2.75, Blue-White เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน เป็นดาวคู่ มีความสว่างปรากฏประมาณ 5.2 และ 2.8 ตามลำดับ อยู่ห่างจากโลกประมาณ 77 ปีแสง โดยชื่อดาว มาจากภาษาอารบิก หมายถึง "ก้ามด้านใต้" (the Southern Claw) เนื่องจากครั้งหนึ่ง เคยเป็นก้ามของแมงป่อง ของกลุ่มดาวแมงป่องมาก่อน
       - Zuben Eschamali, 2.61, Emerald Green เป็นดาวฤกษ์ที่มีสีออกสีเขียว ซึ่งหาดูค่อนข้างยาก มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.61 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 160 ปีแสง โดยชื่อดาว มาจากภาษาอารบิก หมายถึง "ก้ามด้านเหนือ" (the Northern Claw) เนื่องจากครั้งหนึ่ง เคยเป็นก้ามของแมงป่อง ของกลุ่มดาวแมงป่องมาก่อนเช่นกัน
       - Brachium, 3.3 เป็นดาวแปรแสง ที่มีความสว่างปรากฏระหว่างประมาณ 3.2 - 3.36 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 292 ปีแสง





กลุ่มดาวแมงป่อง Scorpio ราศีพิจิก
           
กลุ่มดาวแมงป่อง เป็นกลุ่มดาวอันดับที่แปดของกลุ่มดาวจักรราศี และเป็นกลุ่มดาวแนวกาแล็กซี่ ทางช้างเผือก พาดผ่าน เราสามารถเห็นกลุ่มดาวนี้ เป็นรูปแมงป่องได้ชัดเจน และมีขนาดใหญ่ ตั้งแต่หัวถึงหาง ยาวถึงประมาณ 30 องศาเลยทีเดียว กลุ่มดาวแมงป่อง จะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของเดือนมิถุนายน โดยเมื่อขึ้นไปสูงสุดบนท้องฟ้า จะอยู่ทางทิศใต้ สูงจากขอบฟ้าประมาณ 45 องศา     
 ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 40 และ -90 องศา. ในเดือนกรกฎาคม (เวลา 21:00 )





  - Antares, 0.9, Red ดาวแอนทาเรส เป็นดาวฤกษ์ยักษ์สีแดง (Supergiant) มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ ประมาณ 400 เท่า เป็นดาวคู่ มีความสว่างปรากฏประมาณ 0.9 ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่สว่าง เป็นอันดับ 15 ของท้องฟ้าตอนกลางคืน อยู่ห่างจากโลกประมาณ 604 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง "เทียบเท่า หรือคู่แข่งของดาวอังคาร" (the Rival to Ares) โดยที่ Ares หมายถึง ดาวอังคาร (The Roman Mars) เนื่องจาก มีสีแดงคล้ายดาวอังคารนั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า "Cor Scorpii" ซึ่งหมายถึง หัวใจแมงป่อง (the Heart of Scorpion) ส่วนคนไทย เรียกชื่อดาวดวงนี้ว่า "ดาวปาริชาต"
       - Acrab or Graffias, 2.62, Blue-White เป็นดาวในระบบดาวคู่ที่อยู่ใกล้กันมาก มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.62 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 530 ปีแสง
       - Dschubba, 2.32, Blue-White เป็นดาวในระบบดาวคู่ที่อยู่ใกล้กันมาก มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.32 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 522 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง "หน้าผากของแมงป่อง" (the Forehead of the Scorpion)
       - Shaula, 1.6, Blue-White เป็นดาวแปรแสง มีความสว่างปรากฏระหว่างประมาณ 1.59-1.65 คาบประมาณ 0.21 วัน อยู่ห่างจากโลกประมาณ 359 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง "หางเหล็กไนของแมงป่อง" (Sting)
       - Sargas, 1.87, Yellow มีความสว่างปรากฏประมาณ 1.87 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 272 ปีแสง
       - Lesath, 2.69 มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.69 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 518 ปีแสง
       - Sco, 2.9 มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.9-3.0 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 522 ปีแสง
       - Sco, 2.4 มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.39-2.42 คาบประมาณ 0.2 วัน อยู่ห่างจากโลกประมาณ 464 ปีแสง
       - Sco, 2.29 มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.29 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 65 ปีแสง
       - Sco, 2.89 มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.29 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 459 ปีแสง


คนยิงธนู Sagittarius ราศีธนู
กลุ่มดาวคนยิงธนู
            กลุ่มดาวคนยิงธนู เป็นกลุ่มดาวอันดับที่เก้าของกลุ่มดาวจักรราศี โดยกลุ่มดาวคนยิงธนู จะเป็นรูปสัตว์ในเทพนิยาย เป็นครึ่งม้า ครึ่งคน เหมือนกลุ่มดาวม้าครึ่งคน ( เพียงแต่คนยิงธนูเป็นนายพราน จึงมักจะสับสนกันบ่อย กลุ่มดาวคนยิงธนูจะหันปลายธนู ไปทางกลุ่มดาวแมงป่อง  แต่กลุ่มดาวที่ค่อนข้างสุกสว่างจริงๆ ของกลุ่มดาวนี้ เรามักจะเห็นเป็นรูปกาต้มน้ำ หันไปทางกลุ่มดาวแมงป่องมากกว่า โดยจะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของต้นเดือนกรกฎาคม       

ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 55 และ -90 องศา. ในเดือนสิงหาคม (เวลา 21:00 )

  - Rakbat, 4.1, Blue-white เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน-ขาว แม้จะเป็นดาวอัลฟา แต่มีความสว่างปรากฏไม่มากนัก เพียงประมาณ 4.1 เท่านั้น ชื่อดาว หมายถึง "หัวเข่า" (The Knee)
      1,2 - Arkab Prior, Arkab Posterior, 4.3, 4.5, Blue-White and White เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน-ขาว แม้จะเป็นดาวเบตา แต่มีความสว่างปรากฏไม่มากนักเช่นกัน เพียงประมาณ 4.3 และ 4.5 เท่านั้น
       - Alnasl, 2.99, Yellow เป็นดาวฤกษ์สีเหลือง มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.99 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 96 ปีแสง ดาวดวงนี้ มีอีกชื่อหนึงว่า "Nash" หมายถึง หัวลูกศรธนู
       - Kaus Australis, 1.85, Blue-white เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน-ขาว มีความสว่างปรากฏประมาณ 1.85 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 145 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง ด้านใต้ของคันธนู (The Southern Bow) เนื่องจากตำแหน่งของดาว อยู่ในตำแหน่งด้านล่าง ของคันธนูนั่นเอง
       - Kaus Meridionalis, 2.70 มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.70 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 306 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง กลางของคันธนู (The Middle Bow) เนื่องจากตำแหน่งของดาว อยู่ในตำแหน่งกลางคันธนู
       - Kaus Borealis, 2.81 มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.81 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 77 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง ด้านเหนือของคันธนู (The Northern Bow) เนื่องจากตำแหน่งของดาว อยู่ในตำแหน่งด้านบน ของคันธนู
       - Nunki, 2.02, Blue-white เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน-ขาว มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.02 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 224 ปีแสง อยู่ในตำแหน่งมือขวาของคนยิงธนู ที่กำลังง้างธนู ชื่อดาวดวงนี้ ตั้งแต่สมัยบาบิโลเนียน หมายถึง "ดาวที่ขึ้นมาก่อน ในทะเล" (the Star Preclaiming the Sea) เนื่องจาก กลุ่มดาวที่จะปรากฏตามมา ล้วนเป็นกลุ่มดาว ที่อยู่กับในทะเลทั้งสิ้น ได้แก่ กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ (Aquarius), กลุ่มดาวแพะทะเล หรือมกร (Capricornus), กลุ่มดาวปลาโลมา (Delphius), กลุ่มดาวปลาวาฬ (Cetus), กลุ่มดาวปลาคู่ (Pisces), กลุ่มดาวปลาทางใต้ (Piscis Austrinus)
       - Ascella, 2.60 มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.60 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 89 ปีแสง ชื่อดาว มาจากภาษาละติน หมายถึง ไหล่ (Armpit)
       - Albaldah, 2.89 เป็นฤกษ์ในระบบดาวคู่ 3 ดวง มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.89 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 440 ปีแสง


แพะทะเล Capricorn ราศีมกร


            กลุ่มดาวแพะทะเล หรือกลุ่มดาวมกร เป็นกลุ่มดาวอันดับที่สิบของกลุ่มดาวจักรราศี และเป็นกลุ่มดาวแนวกาแล็กซี่ ทางช้างเผือก พาดผ่าน โดยกลุ่มดาวนี้ เป็นรูปครึ่งแพะ-ครึ่งปลา โดยส่วนหัวเป็นแพะ ส่วนหางเป็นปลา อยู่ทางทิศตะวันออกของ กลุ่มดาวคนยิงธนู เราสามารถเห็นกลุ่มดาวนี้ ได้จากกลุ่มดาววีกา  ลากมายังดาวอัลแตร์  แล้วต่อมายังเขาของแพะทะเล  โดยกลุ่มดาวแพะทะเล จะขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของต้นเดือนสิงหาคม โดยจะค่อนไปทางซีกฟ้าใต้ คนไทยมักเรียกผิด เป็น "กลุ่มดาวมังกร"    

ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 60 และ -90 องศา. ในเดือนกันยายน (เวลา 21:00 )




 
   - Algedi or Giedi, 3.6, Yellowish เป็นดาวฤกษ์สีเหลือง ในระบบดาวคู่ มีความสว่างปรากฏประมาณ 3.6 โดยชื่อดาวทั้งสองชื่อ หมายถึง "แพะ" (the Goat)
       - Dabih, 3.08, Golden-Yellow เป็นดาวในระบบดาวคู่ที่อยู่ใกล้กันมาก มีความสว่างปรากฏประมาณ 3.08 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 344 ปีแสง ชื่อดาว มาจากภาษาอารบิก หมายถึง "ผู้โชคดีในกลุ่มที่ถูกสังหาร" (The Lucky One of the Slaughterers) เนื่องจาก ในสมัยโบราณ จะนำแกะไปบูชายัณห์ให้กับดวงอาทิตย์ เมื่อดวงอาทิตย์ เคลื่อนที่เข้าสู่กลุ่มดาวนี้
       - Nashira, 3.8 มีความสว่างปรากฏประมาณ 3.8 ชื่อดาว มาจากภาษาอารบิก หมายถึง "ผู้นำข่าวดี" (Bringer of Good Tidings)
       - Deneb Algedi, 2.9 เป็นดาวแปรแสง ที่มีความสว่างปรากฏระหว่างประมาณ 2.83-3.05 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 39 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง "หางแพะ" (the Tail of the Goat)

กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ Aquariusราศีกุมภ์
             กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ เป็นกลุ่มดาวอันดับที่สิบเอ็ด ของกลุ่มดาวจักรราศี เป็นกลุ่มดาวที่ค่อนข้างหายาก เนื่องจากไม่มีดาวฤกษ์ดวงใด ในกลุ่มที่มีความสว่างปรากฏ สว่างกว่า 2.9 เลย คนโบราณ เห็นเป็นรูปคนแบกหม้อน้ำ กำลังเทน้ำลงในแม่น้ำ Fluvius Aquarii ซึ่งหมายถึง "the River of Aquarius" ซึ่งสายน้ำจะไหล ผ่านกลุ่มดาวปลาทางใต้ ที่มีดาวฤกษ์สุกสว่างคือ ดาวโฟมาลออท  ขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของปลายเดือนสิงหาคม ต้นเดือนกันยายน      

ตำแหน่งและเวลาที่เห็นชัดเจน
ระหว่างละติจูด 65 และ -90 องศา. ในเดือนตุลาคม (เวลา 21:00 น)


  - Sadalmelik, 2.96, Yellow เป็นดาวฤกษ์สีเหลือง มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.96 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 756 ปีแสง อยู่ในตำแหน่งไหล่ขวา ของคนแบกหม้อน้ำ ชื่อดาว มาจากภาษาอารบิก หมายถึง "ดาวโชคดีของกษัตริย์" (the Lucky Stats of the King)
     - Sadalsuud, 2.91, Yellow เป็นดาวฤกษ์สีเหลือง มีความสว่างปรากฏประมาณ 2.91 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 612 ปีแสง อยู่ในตำแหน่งไหล่ซ้าย ของคนแบกหม้อน้ำ ชื่อดาว มาจากภาษาอารบิก หมายถึง "โชคดีที่สุดของความโชคดี" (the Luckiest of the Lucky)
     ,,, - Aqr ดาวแกมมา, เซตา, เอตา และพาย เปนดาวฤกษ์ที่เรียงตัวกันเป็นรูปตัว Y อยู่ในตำแหน่งหม้อน้ำ (the Water Jar) โดยที่ดาวเซตา (-Aqr) ซึ่งอยู่ตรงกลาง เป็นดาวฤกษ์ในระบบดาวคู่ มีความสว่างปรากฏ 4.3 และ 4.5 ตามลำดับ

กลุ่มดาวปลาคู่ Pisces ราศีมีน
             กลุ่มดาวปลาคู่ เป็นกลุ่มดาวอันดับที่สิบสองของกลุ่มดาวจักรราศี เป็นกลุ่มดาวที่สังเกตค่อนข้างยาก เนื่องจากดาวฤกษ์ในกลุ่ม ไม่ค่อยสุกสว่างมากนัก โดยดาวฤกษ์ในกลุ่มดาว จะเรียงตัวกันเป็นรูปปลา 2 ตัว ที่มีเชือกมัดหางด้วยกันไว้ โดยที่ตัวแรก หันหัวไปทางทิศเหนือ อยู่ใต้กลุ่มดาวแอนโดรเมดา  ส่วนอีกตัวหนึ่ง จะขนานไปกับสุริยวิถี โดยมีวงของดาว 5 ดวง ประกอบด้วย ดาว เรียกว่า "The Circlet" อยู่ทางทิศใต้ของสี่เหลี่ยมกลุ่มดาวม้าปีก  โดยจุดรวมที่เชือกมัด หางของปลาทั้งสองไว้ คือกลุ่มดาวปลาคู่ ขึ้นไปสูงสุดกลางท้องฟ้า ประมาณเที่ยงคืนของปลายเดือนกันยายน, ต้นเดือนตุลาคม       

    - Alrischa, 3.79, Blue-White เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน มีความสว่างปรากฏประมาณ 3.79 เป็นดาวฤกษ์ในระบบดาวคู่ สังเกตแยกออกได้ด้วยกล้องโทรทรรศน์ ความสว่างปรากฏประมาณ 4.2 และ 5.1 ตามลำดับ อยู่ห่างจากโลกประมาณ 100 ปีแสง เป็นจุดที่เชือกที่มัดปลาทั้งสอง มัดเข้าไว้ด้วยกัน ชื่อดาว หมายถึง "เชือก" (the Cord)
       - Psc, 4.01, Blue-White เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน มีความสว่างปรากฏประมาณ 4.01 เป็นจุดที่เป็นจุดตัดระหว่างสุริยวิถี และเส้นศูนย์สูตรฟ้าในยุคปัจจุบัน ซึ่งเรียกว่า "Equinox", "Aries Equinox", "0 Aries" หรือ "March Equinox" นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น